Breaking News

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/2568 ขยายตัวชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้ามาอยู่ที่ 2.8% YoY ตามที่ *** คาดไว้ก่อนหน้านี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการเร่งส่งออก และผลผลิตการเกษตรที่ปรับสูงขึ้น ในขณะที่ภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนชะลอลง ????ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 ที่ 1.5% โดยมีมุมมองเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มชะลอลงอย่างมีนัยสำคัญ จากแรงส่งของการส่งออกที่ลดลงหลังมีการเร่งส่งออกสูงในช่วงครึ่งแรกของปี แม้ไทยได้รับอัตราภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariff) ของสหรัฐฯ ดีกว่าเดิมที่ 19%  ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดประชุม FOMC วันที่ 29-30 ก.ค. 2568 เฟดคงดอกเบี้ยต่อเนื่อง รอดูผลกระทบหลัง Reciprocal Tariffs บังคับใช้ 1 ส.ค. 2568 ซึ่งเป็นการประชุมรอบที่ 5 จากทั้งหมด 8 รอบในปีนี้ คาดว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ระดับ 4.25-4.50% *** ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยครั้งแรกเร็วสุดในเดือนกันยายน 2568 และอีกครั้งในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ จากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ หลังการบังคับใช้ภาษีฯ 1 ส.ค. 68  KKP Research โดยเกียรตินาคินภัทร ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยกำลังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยมหภาคหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวช้า นโยบายการเงินที่ยังคงตึงตัว และแรงกดดันจากมาตรการภาษีระหว่างประเทศ ส่งผลให้ปรับลดเป้าหมายดัชนี SET ปี 2025 ลงเหลือ 1,230 จุด จากเดิม 1,460 จุด ซึ่งสะท้อนอัพไซด์เพียง 5% จากระดับปัจจุบัน นอกจากนี้ ในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงที่ดัชนีจะปรับระดับลงไปทดสอบ 1,000 จุด ซึ่งอาจกระตุ้นให้ภาครัฐต้องออกมาตรการพยุงเศรษฐกิจ

กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.10-32.75 รอความเห็นประธานเฟด

กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.10-32.75 รอความเห็นประธานเฟด
1
เขียนโดย Intrend online 2025-08-18

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.10-32.75 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 32.43 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 32.24-32.46 บาท/ดอลลาร์ เงินดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อยเทียบสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนกรกฎาคมของสหรัฐฯสูงเกินคาดสะท้อนแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่อาจจะเพิ่มขึ้นอันเป็นผลของอัตราภาษีนำเข้า ทำให้ตลาดลดความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)จะลดดอกเบี้ย 50bp ในการประชุมรอบถัดไป อย่างไรก็ดี ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนมุมมองว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 25bp ในเดือนกันยายน โดยนักลงทุนยังคงเชื่อว่าเฟดจะเริ่มผ่อนคลายนโยบายเพื่อตอบสนองต่อความอ่อนแอในตลาดแรงงาน แม้ว่ามีความเสี่ยงที่ผู้ประกอบการ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นและพันธบัตรไทยสุทธิ 7,764 ล้านบาท และ 7,219 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับในสัปดาห์นี้ ขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯไม่ได้เปลี่ยนแปลงความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับโอกาสที่เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนกันยายน โดยนักลงทุนจะจับตาความเห็นประธานเฟดในงานสัมมนาที่ Jackson Hole วันที่ 22 สิงหาคม ทางด้านเศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโต 5 ไตรมาสติดต่อกันขณะที่เรามองว่าความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าที่ลดลงอาจทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)มั่นใจมากขึ้นที่จะกลับมาปรับขึ้นดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้ เราคาดว่าภาวะเช่นนี้จะหนุนค่าเงินเยนในระยะข้างหน้า
 
สำหรับปัจจัยในประเทศ คาดว่าจีดีพีไทยไตรมาส 2/68 จะขยายตัว 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ชะลอลงจาก 3.1% ในไตรมาส 1/68 ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดดอกเบี้ยด้วยมติเอกฉันท์เพื่อบรรเทาภาระของกลุ่มเปราะบางในระบบเศรษฐกิจ โดยระบุว่าแรงส่งทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอลงในช่วงครึ่งหลังของปี 68 เนื่องจากนโยบายการค้าสหรัฐฯและการลดลงของนักท่องเที่ยวระยะใกล้ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในภูมิภาค การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มซบเซา อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะยังอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ สินเชื่อหดตัวขณะที่ความเสี่ยงด้านเครดิตเพิ่มขึ้น อนึ่ง แม้กนง.ยืนยันว่าควรรักษาพื้นที่นโยบายไว้ เราคาดว่ากนง.จะปรับลดดอกเบี้ยอีก 1-2 ครั้งภายในต้นปี 69 สอดคล้องกับแนวทาง Outlook Dependent ขณะที่ความเสี่ยงด้านลบของเศรษฐกิจยังดำเนินต่อไป