Breaking News

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์จีดีพีไทยปี 2569 ชะลอลงมาอยู่ที่ 1.6% จากอุปสงค์ต่างประเทศและในประเทศที่ชะลอลง และยังต้องติดตามความไม่แน่นอนทางการเมือง เทียบกับที่คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.0% ในปี 2568 จากอุปสงค์ต่างประเทศและในประเทศที่ชะลอลง ส่งออกสินค้าของไทยในปี 2569 คาดว่าจะหดตัวส่งผลทำให้แรงขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจไทยลดลง การท่องเที่ยวยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ในขณะที่การบริโภคของครัวเรือนได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ลดลงตามข้อจำกัดทางการคลัง มอง กนง. ลดดอกเบี้ยต่ออีก 1 ครั้ง อีกทั้งยังต้องติดตามความไม่แน่นอนทางการเมือง .... ส่งออกสินค้าของไทยในปี 2569 คาดว่าจะหดตัวส่งผลทำให้แรงขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจไทยลดลง การท่องเที่ยวที่จะยังฟื้นตัวกลับมาได้ไม่เต็มที่ ในขณะที่การบริโภคของครัวเรือนที่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอลง ส่วนหนึ่งจากแรงหนุนจากการใช้จ่ายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอาจลดลงตามข้อจำกัดทางการคลัง โดยคาด กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบายต่ออีก 1 ครั้ง ในปี 2569 นอกจากนี้ ยังต้องติดตามความไม่แน่นอนทางการเมือง โดยเฉพาะหลังการเลือกตั้งด้วยเช่นกัน

ยูโอบี ประเทศไทย จับมือ BACC เดินหน้าปั้นอาสาสมัครนำชม สร้างระบบนิเวศศิลป์ไทย

ยูโอบี ประเทศไทย จับมือ BACC เดินหน้าปั้นอาสาสมัครนำชม สร้างระบบนิเวศศิลป์ไทย
1
เขียนโดย Intrend online 2025-12-11

ยูโอบี ประเทศไทย จับมือ BACC เดินหน้าปั้นอาสาสมัครนำชม สะพานเชื่อมผู้คนสู่โลกศิลปะ สร้างระบบนิเวศศิลป์ที่ยั่งยืน

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ร่วมกับหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) เดินหน้าโครงการ “Audience Building: BACC x UOB Volunteer Docent” สร้าง ‘อาสาสมัครผู้นำชม’ สะพานเชื่อมความหมายของศิลปิน ร่วมสร้างระบบนิเวศศิลป์ไทยที่ยั่งยืนติดต่อกันเป็นปีที่สอง ครอบคลุมทั้งเยาวชน คนทำงาน และวัยเกษียณ
 


คุณธรรัตน โอฬารหาญกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริหารสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “ธนาคารยูโอบีเชื่อมั่นในพลังของศิลปะ ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ เปลี่ยนมุมมอง และขับเคลื่อนการพัฒนาในสังคม หากผู้ชมมีความเข้าใจในงานศิลปะ ก็จะเกิดการตีความที่ลึกซึ้ง สร้างการมีส่วนร่วม และเชื่อมโยงกับสังคมได้กว้างขึ้น ทำให้งานศิลปะร่วมสมัยเข้าถึงผู้ชมโดยไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัว”


 

คุณอดุลญา ฮุนตระกูล ผู้อำนวยการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า “โครงการนี้ไม่ได้หยุดเพียงแค่การอบรม แต่เปิดโอกาสให้อาสาสมัครได้ทำงานจริงในพื้นที่ของหอศิลป์ สิ่งนี้ช่วยเพิ่มจำนวนและคุณภาพของผู้นำชม พร้อมทั้งสร้างกลุ่มที่มีความแข็งแรงและต่อเนื่อง ซึ่งจะนำไปสู่การต่อยอดความรู้ทั้งในฝั่งผู้นำชมและผู้ชม โดยมีธนาคารยูโอบีที่เข้ามาสนับสนุนเพื่อเติมเต็มระบบนิเวศศิลป์ไทยให้สมบูรณ์”

 

 

โครงการอาสาสมัครผู้นำชมนี้ จัดติดต่อกันเป็นปีที่สอง โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ พัฒนาศักยภาพอาสาสมัครนำชมในรูปแบบเพื่อนพาเพื่อนชม ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการที่ครอบคลุมทั้งความรู้ด้านศิลปะร่วมสมัยและทักษะการสื่อสาร โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ คุณพัฒนพงศ์ มณเฑียร ผู้ช่วยศาสตราจารย์อนิวัฒน์ ทองสีดา คุณบุญพงษ์ พานิช และคุณกฤตภาส นิธิสิริปกรณ์ ร่วมเป็นวิทยากรในโครงการ



คุณพัฒนพงศ์ มณเฑียร ศิลปิน นักเขียน ภัณฑารักษ์ และที่ปรึกษาด้านพิพิธภัณฑ์ (Museum Educator) ซึ่งเป็นหนึ่งในวิทยากร กล่าวเพิ่มเติมว่า “การให้ความรู้แก่ผู้ชมสำคัญพอๆ กับการสร้างศิลปิน เพราะต่อให้เรามีศิลปินที่เก่งเพียงใด หากไม่สามารถเชื่อมโยงผลงานกับสาธารณะได้ งานศิลปะก็ไม่อาจมีชีวิต การทำให้ผู้ชมกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นและเชื่อมโยงกับผลงานศิลปะได้ คือสิ่งที่ทำให้โครงการนี้มีคุณค่าอย่างแท้จริง“



 

คุณพีรัส พิสุทธิมาน วัย 29 ปี เจ้าของธุรกิจและครูสอนศิลปะ หนึ่งในผู้ที่เข้าอบรมในโครงการอาสาสมัครผู้นำชม กล่าวว่า “ความท้าทายของการเป็นผู้นำชมคือการทำให้ผู้ฟังประทับใจและอยากกลับมาอีก ซึ่งการอบรมครั้งนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการส่งต่อความรู้”

สำหรับผู้ที่ผ่านการอบรมจะได้เป็นอาสาสมัครนำชมนิทรรศการที่หอศิลป์กรุงเทพฯ (วันพฤหัสบดี – วันอาทิตย์) และจะได้รับประกาศนียบัตรเมื่อปฏิบัติหน้าที่ครบ 15 ชั่วโมง โดยการอบรมรอบที่ 3 ประจำปี 2568 จะจัดขึ้นในวันที่ 13-14 ธันวาคมนี้