Breaking News

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดประชุม FOMC วันที่ 29-30 ก.ค. 2568 เฟดคงดอกเบี้ยต่อเนื่อง รอดูผลกระทบหลัง Reciprocal Tariffs บังคับใช้ 1 ส.ค. 2568 ซึ่งเป็นการประชุมรอบที่ 5 จากทั้งหมด 8 รอบในปีนี้ คาดว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ระดับ 4.25-4.50% *** ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยครั้งแรกเร็วสุดในเดือนกันยายน 2568 และอีกครั้งในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ จากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ หลังการบังคับใช้ภาษีฯ 1 ส.ค. 68  KKP Research โดยเกียรตินาคินภัทร ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยกำลังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยมหภาคหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวช้า นโยบายการเงินที่ยังคงตึงตัว และแรงกดดันจากมาตรการภาษีระหว่างประเทศ ส่งผลให้ปรับลดเป้าหมายดัชนี SET ปี 2025 ลงเหลือ 1,230 จุด จากเดิม 1,460 จุด ซึ่งสะท้อนอัพไซด์เพียง 5% จากระดับปัจจุบัน นอกจากนี้ ในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงที่ดัชนีจะปรับระดับลงไปทดสอบ 1,000 จุด ซึ่งอาจกระตุ้นให้ภาครัฐต้องออกมาตรการพยุงเศรษฐกิจ

เนสท์เล่ เดินหน้าใช้ไฟฟ้าสีเขียวจากพลังงานหมุนเวียนในโรงงานผลิต 6 แห่ง

เนสท์เล่ เดินหน้าใช้ไฟฟ้าสีเขียวจากพลังงานหมุนเวียนในโรงงานผลิต 6 แห่ง
1
เขียนโดย Intrend online 2025-08-04

เนสท์เล่ เดินหน้าใช้ไฟฟ้าสีเขียวจากพลังงานหมุนเวียนในโรงงานผลิต 6 แห่ง ร่วมมือ กฟน. และ กฟภ. ภายใต้โครงการบริการไฟฟ้าสีเขียวแบบไม่เจาะจงแหล่งที่มา (UGT1)

 

นางสาวสุชาดา คงธรรม (ซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจพลังงาน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นายฟิลิปป์ กลาวเซอร์ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายเทคนิคและอุตสาหกรรมการผลิต บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด นายประวีณ นารายัณ (ที่ 2 จากขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด และ นายอำพล สงวนวงศ์ (ขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจพลังไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง

 

บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เดินหน้าใช้ไฟฟ้าสีเขียวจากพลังงานหมุนเวียนในโรงงานผลิต 6 แห่งในประเทศไทย ด้วยความร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ภายใต้โครงการ Utility Green Tariff 1 (UGT1) ซึ่งเป็นการให้บริการไฟฟ้าสีเขียวแบบไม่เจาะจงแหล่งที่มา  ความร่วมมือดังกล่าวเป็นไปตามเป้าหมายของเนสท์เล่ ประเทศไทย ในการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100% ในโรงงานผลิตภายในปีนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนงาน Net Zero 2050 เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 และส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มคุณภาพที่ผลิตจากแหล่งพลังงานที่ยั่งยืนให้กับผู้บริโภคไทย

ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ เนสท์เล่ได้นำไฟฟ้าสีเขียวจากพลังงานหมุนเวียนมาใช้กับโรงงานเนสท์เล่ทั้งหมด 6 โรงงาน ได้แก่ โรงงานผลิตเนสท์เล่ไอศกรีม บางชัน โรงงานผลิตครีมเทียม บางปู โรงงานผลิตน้ำดื่ม ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมไปถึงโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง ในจังหวัดระยอง 2 แห่ง ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2568 เป็นต้นมา

นายฟิลิปป์ กลาวเซอร์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายเทคนิคและอุตสาหกรรมการผลิต บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า “ความร่วมมือกับทาง กฟน. และ กฟภ. ภายใต้โครงการ Utility Green Tariff 1 (UGT1) ในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญของเนสท์เล่ ประเทศไทย ในการเดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 การเปลี่ยนไปใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นในการดูแลโลกของเราอย่างยั่งยืน โดยเนสท์เล่นับเป็นบริษัทอาหารและเครื่องดื่มรายแรก ๆ ของประเทศที่ร่วมโครงการ UGT1 เพื่อให้มั่นใจว่าพลังงานไฟฟ้าที่เนสท์เล่ใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของเราเป็นพลังงานสะอาดที่มีแหล่งกำเนิดจากพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นการต่อยอดด้านความยั่งยืน เพื่อดูแลผู้คนและโลกของเรา”

นายอำพล สงวนวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจพลังไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า “กฟน. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเริ่มให้บริการจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าสีเขียวตามอัตรา UGT1 กับ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ตั้งแต่รอบใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดือนกรกฎาคม 2025 เป็นต้นไป ทั้งนี้ การให้บริการดังกล่าวยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด สามารถรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าสีเขียวของภาคอุตสาหกรรมที่กําลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้มากยิ่งขึ้น เป็นการช่วยยกระดับอุตสาหกรรม และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการในระยะยาว สำหรับการตอบสนองความต้องการใช้พลังงานในอนาคตที่ยั่งยืน”

นางสาวสุชาดา คงธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจพลังงาน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า “การร่วมมือระหว่างเนสท์เล่ และกฟภ. ในครั้งนี้ จะช่วยตอกย้ำเจตนารมณ์ในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และขับเคลื่อนประเทศสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืน การเลือกใช้พลังงานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนภายใต้โครงการ UGT1 แสดงถึงความร่วมแรงร่วมใจระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบพลังงานที่ยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาว”

การร่วมมือกับ กฟน. และ กฟภ. ในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเนสท์เล่ในการดำเนินงานภายใต้หลักการ ESG ทุกมิติ ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการในราคาที่เข้าถึงได้ และให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและสังคมในทุกก้าวของการดำเนินธุรกิจ