‘บมจ.เงินเทอร์โบ’ หรือ TURBO ปลื้มนักลงทุนตอบรับจองซื้อ IPO ล้น

‘บมจ. เงินเทอร์โบ’ หรือ TURBO ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้น IPO หลังนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยตอบรับการจองซื้อหุ้นอย่างล้นหลาม ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตและการทำกำไร เตรียมนำเงินที่ได้มุ่งขยายธุรกิจ พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงินและบริการใหม่ๆ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า เดินหน้านำหุ้นเข้าจดทะเบียนและซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) 30 กันยายน 2568 นี้
นายสุธัช เรืองสุทธิภาพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด (มหาชน) หรือ TURBO เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 30 กันยายน 2568 นี้ โดยใช้ชื่อย่อ ‘TURBO’ ในการซื้อขายหลักทรัพย์ หลังประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 19, 22 -23 กันยายนที่ผ่านมา จำนวนทั้งสิ้น 537 ล้านหุ้น ที่ราคาเสนอขาย 1.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยอย่างล้นหลาม สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตและการทำกำไรที่โดดเด่น ซึ่งจะช่วยผลักดันให้บริษัทฯ ก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้ารายย่อยชั้นนำของประเทศ
ทั้งนี้ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้ขยายธุรกิจให้บริการทางการเงินของกลุ่มบริษัทฯ โดยจะขยายสาขาเพิ่มจาก 996 แห่งใน 54 จังหวัด ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 พร้อมทั้งรองรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า เช่น การเพิ่มประเภทหลักประกันสำหรับสินเชื่อ การเพิ่มประเภทผลิตภัณฑ์ประกัน และการเพิ่มจำนวนคู่ค้าบริษัทประกัน เป็นต้น โดยส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจและใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์
“นับเป็นก้าวสำคัญของ TURBO ในการมุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้ารายย่อยชั้นนำของประเทศไทย เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับฐานราก สนับสนุนให้คนไทยโดยเฉพาะกลุ่มรายย่อยที่มีความต้องการสินเชื่อแต่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ ให้ก้าวต่อไปได้” นายสุธัชกล่าว
นายคมกฤต รักษากุลเกียรติ หัวหน้าวาณิชธนกิจ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า หลังจากเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้น IPO ของ TURBO ก็ได้รับการตอบรับอย่างคึกคักจากนักลงทุนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่แสดงความต้องการจองซื้ออย่างล้นหลาม เนื่องจาก TURBO เป็นผู้ให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้ารายย่อยที่มีศักยภาพการเติบโตสูง จากการเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ที่สาขายังมีอายุน้อย โดยมีสาขาที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปี คิดเป็น 65.6% ของสาขาทั้งหมด และจากจำนวนสาขาที่ยังไม่ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ จึงยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก นอกจากนี้ รายได้จากธุรกิจนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัยของกลุ่มบริษัทฯ ยังมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 54.3% ต่อปีนับจากปี 2563 ถึงปี 2567 แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขัน และสร้างการเติบโตในธุรกิจนายหน้าประกันภัยอีกด้วย
โดยตลอด 8 ปีที่ผ่านมาของการดำเนินธุรกิจ TURBO สามารถให้บริการทางการเงินที่รวดเร็ว สะดวก ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด และสร้างประสบการณ์การเข้ารับบริการที่ดีให้แก่ลูกค้า ส่งผลให้พอร์ตโฟลิโอสินเชื่อเติบโตแบบก้าวกระโดดจาก 3,282.0 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 เป็น 11,262.9 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 หรือคิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 31.5% ต่อปี ซึ่งตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นของผู้รับบริการสินเชื่อที่มีต่อเงินเทอร์โบ นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนองค์กรในทุกขั้นตอน จึงทำให้ควบคุมความเสี่ยงได้ดี โดยมีอัตราส่วนรายได้รวมหักค่าใช้จ่ายผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อลูกหนี้เงินให้กู้ยืมสุทธิเฉลี่ยที่ 21.8% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเดียวกัน
ข่าวเกี่ยวข้อง

ไทยถูกปรับ Credit rating เป็นลบ กดดันเงินบาทอ่อนค่า SCB FM มองกรอบ 31.00-32.00
Intrend online 2025-09-25