Breaking News

Krungthai COMPASS เผยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือน ส.ค. 68 อยู่ที่ -0.79% ติดลบสูงขึ้นจากเดือนก่อน ซึ่งอยู่ที่ -0.70% มองเงินเฟ้อของไทยขาดแรงส่ง หลังอัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบต่อเนื่อง 5 เดือน คาดเงินเฟ้อไทยในช่วงที่เหลือของปี 68 ยังคงอ่อนแรง ทั้งจากทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลง *** คาดเงินเฟ้อไทยในช่วงที่เหลือของปี 68 ยังคงอ่อนแรง ทั้งจากทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มแผ่วลงซึ่งจะกดดันกำลังซื้อ รวมถึงการไหลบ่าของสินค้าราคาถูกจากนอกประเทศต่างลดทอนแรงส่งที่มีต่อเงินเฟ้อของไทยต่อไป

ทีทีบี มุ่งสร้างความปลอดภัยทางการเงินให้ลูกค้ายุคดิจิทัล ย้ำ! บัญชีม้าโทษหนัก

ทีทีบี มุ่งสร้างความปลอดภัยทางการเงินให้ลูกค้ายุคดิจิทัล ย้ำ! บัญชีม้าโทษหนัก
1
เขียนโดย Intrend online 2025-10-07

ทีทีบี มุ่งสร้างความปลอดภัยทางการเงินให้ลูกค้ายุคดิจิทัล ย้ำ! บัญชีม้าโทษหนัก เตือนคนไทยรู้เท่าทัน ป้องกันก่อนตกเป็นเหยื่อ


ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ตระหนักถึงภัยการถูกหลอกลวงทางการเงินผ่านบัญชีม้า ที่สร้างความเสียหายต่อประชาชนในวงกว้าง และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการใช้บริการทางการเงินออนไลน์ เดินหน้าสร้างความปลอดภัยให้กับลูกค้าในยุคดิจิทัล โดยมุ่งยกระดับมาตรการจัดการบัญชีม้าตามแนวทางของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการเร่งช่วยเหลือประชาชนผู้สุจริตจากอาชญากรรมทางการเงินและรักษาความสะดวกในการใช้บริการของประชาชนทั่วไป พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์อย่างเต็มที่ ควบคู่กับการให้ความรู้และอัปเดตกลโกงรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนรู้เท่าทันและป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ


ปัจจุบันสถานการณ์บัญชีม้าในประเทศไทยยังคงเป็นปัญหาที่น่ากังวล โดยมิจฉาชีพได้ใช้บัญชีม้าเป็นเครื่องมือในการหลอกลวงประชาชนผู้สุจริตผ่านช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาล ทั้งนี้ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 - 6 ตุลาคม 2568 มีคดีออนไลน์เกิดขึ้นแล้วกว่า 254,782 คดี มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 22,711,370,760 บาท พบเป็นคดีหลอกซื้อขายสินค้าและบริการกว่า 59%  รองลงมาเป็นคดีหลอกโอนเงินเพื่อรับรางวัลหรือวัตถุประสงค์อื่น 17% และ หลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ 11% 


รู้ทันกลโกงมิจฉาชีพ ย้ำ! บัญชีม้าโทษหนัก


ในช่วงที่ผ่านมา มิจฉาชีพจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบกลโกงและวิธีการหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้บัญชีม้าในการรับโอนเงิน ไม่ว่าจะเป็น


· จ้างเปิดบัญชีนิติบุคคลแล้วนำไปใช้หลอกเหยื่อ : จ้างบุคคลไปจดทะเบียนบริษัท หรือห้างหุ้นส่วน จากนั้นหลอกให้เปิดบัญชีในรูปแบบนิติบุคคล ใช้เป็นบัญชีม้ารับเงิน เพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อทำธุรกรรม จนเกิดความเสียหาย เพราะบัญชีปลายทางเป็นบัญชีบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนจริง ดังนั้น ต้องเช็กให้ดีก่อนโอน และอย่าหลงเชื่อเพียงเพราะเงินค่าจ้างเปิดบัญชีเพียงไม่กี่บาท ไม่อย่างนั้นอาจโดนข้อหาบัญชีม้า รับโทษหนัก


· ปลอมตัวเป็นพนักงานธนาคารเพื่อหลอกขายกองทุน : มิจฉาชีพสวมรอยแอบอ้างเป็นพนักงานธนาคาร โทรหรือทักแชทหาเหยื่อเพื่อเสนอขายกองทุนหรือผลิตภัณฑ์การเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงในเวลาสั้น ๆ เกินจริง และให้แอดไลน์ส่วนตัวเพื่อให้ส่งเอกสาร และข้อมูลส่วนบุคคล โดยจะให้โอนเงินลงทุนเข้าบัญชีม้า จากนั้นก็จะปิดบัญชีหนี หากเจอแบบนี้อย่าหลงเชื่อ เช็กกับธนาคารให้ชัวร์ก่อนตัดสินใจลงทุน และอย่าลืมรีบส่งข้อมูลเตือนภัยให้คนรอบข้างด้วย


· หลอกขโมยข้อมูลส่วนตัวเปิดบัญชีม้า : แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร หลอกขอเอกสารและข้อมูลส่วนตัว รวมทั้งหลอกให้สแกนใบหน้า เพื่อเปิดบัญชีทางโทรศัพท์ โดยอ้างว่าเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า สุดท้ายคือ เอาไปเปิดบัญชีม้า ซึ่งจริง ๆ แล้ว พนักงานธนาคารจะไม่ขอเอกสาร หรือข้อมูลส่วนตัวทางโทรศัพท์ และไม่ส่งลิงก์ใด ๆ นอกจากนี้ หากนัดรับเอกสารข้างนอกต้องสังเกตการแต่งกายในชุดยูนิฟอร์ม และมีบัตรพนักงานเท่านั้น


อย่างไรก็ตาม ปัญหาไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผู้ที่ถูกหลอกโอนเงินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ที่เปิดบัญชีม้าเอง ซึ่งอาจถูกหลอกให้เปิดบัญชี หรือผู้ที่จงใจขายบัญชี เพื่อหวังประโยชน์เพียงเล็กน้อย แต่อาจต้องเผชิญกับโทษทางกฎหมายร้ายแรง ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ดังนี้ การเปิด ขาย ให้เช่า ให้ยืมบัญชีธนาคาร หรือ e-wallet มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ ส่วนผู้ใดเป็นธุระจัดหา โฆษณา เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า ให้ยืมบัญชีเงินฝาก หรือ e-wallet มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2 – 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000 - 500,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ 


จากภัยการเงินในปัจจุบันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทีทีบีไม่ได้หยุดนิ่งที่จะยกระดับป้องกันภัยทางการเงินช่วยลูกค้าลดความเสี่ยง โดยล่าสุดได้ปรับมาตรการจัดการบัญชีม้าให้สอดคล้องกับแนวทางของ ธปท. เพื่อลดระยะเวลาในการปลดระงับบัญชีให้เร็วขึ้นจากเดิม 72 ชั่วโมง – 7 วัน เหลือไม่เกิน 4 ชั่วโมงหลังได้รับข้อมูลจากศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ทำให้ช่วยเหลือลูกค้าที่สุจริตได้รวดเร็วมากขึ้น แต่ยังคงเข้มงวดในการตรวจสอบและติดตามเส้นทางการเงินของมิจฉาชีพเพื่อคืนความเป็นธรรมให้ผู้เสียหาย และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในทุกการทำธุรกรรม นอกจากนี้ ยังเร่งปรับกระบวนต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับนโยบายของ ธปท. ทั้งการเชื่อมโยงฐานข้อมูลกลางการทุจริต (Central Fraud Registry: CFR) 


ทีทีบีมุ่ง Make REAL Change สร้างระบบการเงินดิจิทัลที่ปลอดภัย เพื่อให้ชีวิตทางการเงินของคนไทยดีขึ้นแบบรอบด้านอย่างแท้จริง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์ รวมถึงใช้ข้อมูลเชิงลึกมายกระดับการเตือนภัยและความรู้ทางการเงินของประชาชน อีกทั้งยังผลักดันยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมให้ทุกคนมาร่วมมือและจัดการบัญชีม้าอย่างจริงจัง เพื่อให้คนไทยใช้บริการทางการเงินอย่างปลอดภัยและมั่นใจ”


ข้อมูลจาก : ฟินทิป โดยทีทีบี และ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.)