Breaking News

Krungthai COMPASS เผยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือน ส.ค. 68 อยู่ที่ -0.79% ติดลบสูงขึ้นจากเดือนก่อน ซึ่งอยู่ที่ -0.70% มองเงินเฟ้อของไทยขาดแรงส่ง หลังอัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบต่อเนื่อง 5 เดือน คาดเงินเฟ้อไทยในช่วงที่เหลือของปี 68 ยังคงอ่อนแรง ทั้งจากทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลง *** คาดเงินเฟ้อไทยในช่วงที่เหลือของปี 68 ยังคงอ่อนแรง ทั้งจากทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มแผ่วลงซึ่งจะกดดันกำลังซื้อ รวมถึงการไหลบ่าของสินค้าราคาถูกจากนอกประเทศต่างลดทอนแรงส่งที่มีต่อเงินเฟ้อของไทยต่อไป

เอสซีบีเอกซ์ ประกาศผลกำไรสุทธิ ไตรมาส 3 ปี 2568 จำนวน 12,056 ล.

เอสซีบีเอกซ์ ประกาศผลกำไรสุทธิ ไตรมาส 3 ปี 2568 จำนวน 12,056 ล.
1
เขียนโดย intrend online 2025-10-21

กรุงเทพฯ, 21 ตุลาคม 2568 — บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ของปี 2568 จำนวน 12,056 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของกำไรจากเงินลงทุน และรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นจากผลการดำเนินงานของธุรกิจบริหารความมั่งคั่งที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้งการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับเก้าเดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 37,344 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในไตรมาส 3 ของปี 2568 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 29,413 ล้านบาท ลดลง 9.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการลดลงของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ ซึ่งเป็นไปตามปริมาณสินเชื่อโดยรวมที่ลดลง 3.3% ภายใต้การปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง

รายได้ค่าธรรมเนียมและอื่น ๆ มีจำนวน 10,942 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% จากปีก่อน จากธุรกิจบริหารความมั่งคั่งที่เติบโตอย่างโดดเด่นจากการขายผลิตภัณฑ์การลงทุนมูลค่าสูง รวมถึงการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมทางการเงิน ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อ และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ

รายได้จากการลงทุนและการค้ามีจำนวน 3,326 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากผลขาดทุนในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลจากกำไรจากพอร์ตการลงทุนของธนาคาร และของบริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน จำนวน 17,575 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยที่ 0.2% จากปีก่อน จากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้อยู่ที่ 40.2%

บริษัทฯ ตั้งสำรองลดลง 1.3% จากปีก่อน เนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ โดยเฉพาะการปรับตัวดีขึ้นของบริษัท คาร์ด เอกซ์ จำกัด ทั้งนี้จำนวนสำรองดังกล่าวได้รวมสำรองพิเศษอีกจำนวน 1,400 ล้านบาท เพื่อรองรับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในอนาคต ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) คงอยู่ในระดับสูงที่ 161.7%

แม้เผชิญกับความผันผวนจากปัจจัยภายนอก บริษัทฯ ยังสามารถควบคุมคุณภาพของสินเชื่อโดยรวมได้ดี โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 อยู่ที่ 3.30% ลดลงจาก 3.38% ในปีก่อน เงินกองทุนตามกฎหมายของบริษัทฯ อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.9%

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสนี้ สะท้อนถึงความก้าวหน้าตามกลยุทธ์ที่วางไว้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในธุรกิจบริหารความมั่งคั่งที่เติบโตอย่างมั่นคง ซึ่งเป็นผลจากการนำเทคโนโลยีมาเสริมศักยภาพของบุคลากรในการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าในแต่ละช่วงชีวิต พร้อมทั้งพัฒนาแพลตฟอร์มและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดโอกาสการลงทุนแบบไร้พรมแดน เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลได้อย่างแท้จริง มุ่งสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจนี้ภายในปี 2569

ด้านการช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางผ่านโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาลงทะเบียนเมื่อสิ้นไตรมาสที่ผ่านมา มีลูกหนี้เข้าร่วมโครงการและได้รับความช่วยเหลือแล้วเป็นยอดหนี้รวมมากกว่าหกหมื่นล้านบาท

แม้เศรษฐกิจไทยยังเผชิญกับความท้าทายหลากหลายด้าน SCBX ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์เชิงรุกในการปรับโครงสร้างธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนเชิงกลยุทธ์ผ่านการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานอย่างลึกซึ้ง ด้วยพลังของ AI และนวัตกรรม โดยนำเทคโนโลยีมาช่วยในการออกแบบกระบวนการใหม่ทั้งหมด ไม่ใช่เพียงการลดค่าใช้จ่ายเฉพาะจุดหรือการปิดสาขา แต่เป็นการปรับวิธีการดำเนินงานทั้งระบบ เพื่อให้ต้นทุนการให้บริการลดลงอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงดำเนินนโยบายบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงินในระยะยาว และพร้อมมีบทบาทเชิงรุกในการสนับสนุนภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจให้สามารถฟื้นตัวและเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ผ่านการพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ทันสมัยและการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล”