Breaking News

Krungthai COMPASS มองว่าการติดลบของเงินเฟ้อครั้งแรกในรอบ 13 เดือน ยังไม่ใช่การเข้าสู่ภาวะเงินฝืด เนื่องจากระดับราคาสินค้าและบริการยังปรับลดลงไม่กระจายวงกว้าง (Broad-based) และปัจจัยของการปรับลดลงมาจากฝั่งราคาพลังงานซึ่งต่ำกว่าปีก่อน3 โดยเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงเป็นบวก อนึ่งยังต้องติดตามผลจากการทะลักของสินค้าจีนที่เข้ามารุกตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยเหล่านี้ล้วนเพิ่มความเสี่ยงด้านต่ำต่ออัตราเงินเฟ้อของไทย ทั้งนี้ Krungthai COMPASS คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั้งปีจะอยู่ที่ 0.7% จากผลของฐานราคาพลังงานเป็นสำคัญ รวมถึงอุปสงค์ในประเทศที่แผ่วลงและผลของสงครามการค้าที่มีความไม่แน่นอนสูง  KKP Research โดยเกียรตินาคินภัทร ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยกำลังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยมหภาคหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวช้า นโยบายการเงินที่ยังคงตึงตัว และแรงกดดันจากมาตรการภาษีระหว่างประเทศ ส่งผลให้ปรับลดเป้าหมายดัชนี SET ปี 2025 ลงเหลือ 1,230 จุด จากเดิม 1,460 จุด ซึ่งสะท้อนอัพไซด์เพียง 5% จากระดับปัจจุบัน นอกจากนี้ ในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงที่ดัชนีจะปรับระดับลงไปทดสอบ 1,000 จุด ซึ่งอาจกระตุ้นให้ภาครัฐต้องออกมาตรการพยุงเศรษฐกิจ

ทีทีบี ตอกย้ำปีแห่งการช่วยเหลือลูกหนี้ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.15%

ทีทีบี ตอกย้ำปีแห่งการช่วยเหลือลูกหนี้ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.15%
1
เขียนโดย intrend online 2025-05-15

มุ่งช่วยลูกค้าทุกกลุ่มลดภาระทางการเงิน ตั้งรับความเสี่ยงจากเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.15% ต่อปี สอดคล้องกับมติ กนง. เพื่อช่วยลดภาระทางการเงินให้กับลูกค้ารายย่อย ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และลูกค้าธุรกิจ สามารถตั้งรับกับเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง รวมทั้งความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากผลกระทบการค้าโลก

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีแห่งการช่วยเหลือลูกหนี้ของทีทีบี จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปีนี้ยังมีความไม่แน่นอนสูง ทั้งปัจจัยภายในและนอกประเทศ อาทิ ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่รายได้ไม่สัมพันธ์กับรายจ่าย ความกดดันจากปัญหาเชิงโครงสร้างและการแข่งขันจากสินค้าต่างประเทศ ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายการค้าโลกโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง และผลพวงจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีทิศทางลดลง ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มปรับลดลง และส่งผลต่อลูกค้าทุกกลุ่มตั้งแต่รายย่อย ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และกลุ่มลูกค้าธุรกิจ

ทีทีบี มีความห่วงใยลูกค้าสินเชื่อทุกกลุ่ม จึงปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.15% ต่อปี สอดคล้องกับมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อช่วยลดภาระทางการเงินของลูกค้าและเพิ่มสภาพคล่อง ให้สามารถตั้งรับกับเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มปรับลดลง โดยธนาคารจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงทุกประเภท ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย MOR ลดลง 0.15% ต่อปี ส่วนอัตราดอกเบี้ย MLR ลดลง 0.10% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ย MRR ลดลง 0.05% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ธนาคารยังเล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องการออมภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน เพื่อช่วยเหลือผู้ฝากรายย่อยให้มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการออมเงินในช่วงนี้ ธนาคารพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ บัญชี ทีทีบี โนฟิกซ์ สูงสุด 0.40% ต่อปี ซึ่งเป็นบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง ที่จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือนและถอนเมื่อไหร่ก็ได้ ตอบโจทย์ลูกค้าที่มีความกังวลเรื่องสภาพคล่อง มีผลวันที่ 1 มิถุนายน 2568

พร้อมกันนี้ ทีทีบีได้ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย เดินหน้าช่วยเหลือลูกค้าที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ลดภาระหนี้ผ่านโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ ที่ช่วยลดดอกเบี้ยเหลือ 0% และลดค่างวดผ่อนตลอด 3 ปี โดยได้ขยายช่วงเวลาการลงทะเบียนไปสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2568 และล่าสุดธนาคารยังมีโปรแกรม “ทีทีบี ผ่อนดี.. มีรางวัล” ที่ให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่มีประวัติผ่อนดี ถือเป็นลูกค้าอีกกลุ่มที่สำคัญและยังไม่ค่อยได้รับการช่วยเหลือ โดยโปรแกรมนี้ช่วยเหลือครอบคลุมทั้งคนผ่อนดีที่มีบ้าน มีรถ และกลุ่มพนักงานเงินเดือนที่มีสินเชื่อบุคคล ซึ่งการปรับลดดอกเบี้ยลงในครั้งนี้ จะช่วยให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์จากโปรแกรมนี้เพิ่มขึ้น

ทีทีบีพร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่าง ๆ ตลอดจนส่งเสริมให้ลูกค้าสามารถจัดการภาระหนี้ที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนผ่านโซลูชันรวบหนี้ โซลูชันโอนยอดหนี้ โครงการคุณสู้ เราช่วย และโปรแกรมผ่อนดีมีรางวัลควบคู่กับแนะนำการให้ความรู้ทางการเงิน เพื่อการจัดการหนี้ที่สอดคล้องกับรายได้และความสามารถในการชำระคืน ภายใต้หลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ตามเป้าหมายของธนาคารที่มุ่งมั่นทำให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งวันนี้ และอนาคต